นักเรียนจงทำแบบทดสอบก่อนเรียน
https://docs.google.com/forms/d/1qW78kwPXV0afQGILUmlDlBxszUUycIPAll6NEeimNmA/edit
ศิลปะ
หมายถึง ผลงานที่มนุษย์สร้างขึ้น จากประสบการณ์และจินตนาการ ด้วยความชำนาญหรือทักษะเฉพาะตัว สร้างสรรค์เพื่อความพึงพอใจ (สุนทรียภาพ)
ผลงานทางด้านศิลปะจำแนกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.วิจิตรศิลป์ (Fine Arts) คือ งานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อชื่นชมความงดงาม
2.ประยุกต์ศิลป์ (Applied arts ) คือ งานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก
วิจิตรศิลป์ได้แก่
1.งานจิตรกรรม ( Paintings ) คือ งานวาดภาพ ระบายสี
2.ประติมากรรม (Sculpture) คือ งานศิลปกรรมที่ได้จากการปั้น การหล่อ และการแกะสลัก
3.สถาปัตยกรรม
( Architecture) คือ งานออกแบบ สิ่งก่อสร้าง อาคาร บ้านเรือน
4.วรรณกรรม
( Literature ) คือ งานทางด้านการใช้ภาษา บทประพันธ์ งานเขียน บทความ ต่างๆ
5.ดนตรีและนาฏกรรม
( Music and
Dramatic ) คือ งานด้านดนตรี การแสดง
ประยุกต์ศิลป์ (Applied Art)
ประยุกตศิลป์ เป็นศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากความชื่นชมในคุณค่าของศิลปะโดยตรง เช่น ภาพหรือลดลายที่ใช้ตกแต่งอาคาร หรือเครื่องเรือน รูปทรง สีสัน ของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ออกแบบให้เป็นที่พอใจของผู้ บริโภค หรือเครื่องใช้ไม่สอยที่ทำขึ้นด้วยฝีมือประณีต ศิลปะที่ประยุกต์เข้าไปในสิ่งที่ใช้ประโยชน์เหล่านี้ จะให้ความพอใจอัน เกิดจากความประณีตสวยงาม ความกลมกลืน แก่ประสาทสัมผัสควบคู่ไปกับประโยชน์ใช้สอย
งานประยุกต์ศิลป์
ส่วนใหญ่คืองานศิลปะที่สนองประโยชน์ใช้สอย ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะงานประณีตศิลป์ และ หัตถกรรม เท่านั้น เพราะทั้ง สองประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นส่งของเครื่องใช้ นับตั้งแต่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันขึ้นไปจนถึงสิ่งฟุ่มเฟือยซึ่งสนองตอบในทาง ตกแต่งประดับประดามากกว่าจะมีความจำเป็นจริงๆ ในเรื่องนี้ถ้าเราหันกลับไปดูในยุคโบราณก็จะเห็นได้ว่ามนุษย์ดึกดำบรรพ์มี ทั้งเครื่องมือหิน หนังสัตว์ และเครื่องประดับประดาที่เป็นลูกปัดร้อยเป็นพวงแขวนคอ ดังนั้น เครื่องประดับอาจใช้แทน เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ก็ได้
ประยุกต์ศิลป์ (Applied Art) แบ่งออกเป็น 4 แขนง คือ
1. พาณิชย์ศิลป์ (Commercial Art) เป็นงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพื่อสนับสนุนกิจการค้า และการบริการ เพื่อ ให้ประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายได้แก่ การออกแบบเครื่องหมายการค้า การออกแบบสิ่งพิมพ์ การออกแบบโฆษณา การออก แบบฉลากสินค้า การออกแบบจัดแสดงสินค้า ฯลฯ ผู้สร้างสรรค์งานพาณิชย์ศิลป์ เรียกว่า นักออกแบบ (Designer)
2. มัณฑนศิลป์ (Decorative Art) เป็นงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพื่อการตกแต่ง สิ่งต่าง ๆ ให้เกิดความสวยงาม และเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ได้แก่ การจัดตกแต่งภายในบ้าน อาคาร สถานที่ต่าง ๆ การตกแต่งภายนอก การจัด สวน การจัดนิทรรศการ การจัดบอร์ด ป้ายนิเทศ การจัดแสดงสินค้า การแต่งกาย การแต่งหน้า การตกแต่งร้านค้า เป็นต้น ผู้สร้าง สรรค์งานมัณฑนศิลป์ เรียกว่า มัณฑนากร (Decorator)
3. อุตสาหกรรมศิลป์ (Industrial Art)
เป็นงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพื่อการผลิต ผลิตภัณฑ์ (Product) สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้สวยงามและเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ด้วยวิธีการในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งมีการทำงานเป็นระบบ เป็นขั้นตอน มีมาตรฐาน มีการใช้เครื่องจักรกลเข้าช่วย ทำให้ต้นทุนต่ำ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ เครื่องยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเลคโทรนิค เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ครุภัณฑ์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย เครื่องอุปโภค บริโภคต่าง ๆ ตลอดจนถึงภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วย
ผู้สร้างสรรค์งาน เรียกว่า นักออกแบบ (Designer)
ศัพท์ทางทัศนศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ของงานทัศนศิลป์ เช่น วิจิตรศิลป์ (fine art) ศิลปะประยุกต์ (appiled art) จิตรกรรม (painting) วาดเส้น (drawing) ระบายสี (painting)
https://www.youtube.com/watch?v=mW4K1m2_xPE ความหมายศิลปะ
https://www.youtube.com/watch?v=3Ucz2i1Xf90 วิจิตรศิลป์
https://www.youtube.com/watch?v=jG96ISvkOCY ประยุกต์ศิลป์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น