วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564

โขน สำหรับมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตอนที่ 2

 

ตัวละครโขน รามเกียรติ์

 อินทรชิต เป็นยักษ์มีกายสีเขียว เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เดิมชื่อรณพักตร์  เมื่อสามารถรบชนะพระอินทร์ได้ ทศกัณฐ์พอใจมากจึงเปลี่ยนชื่อให้ว่า อินทรชิต อินทรชิตมีชายาชื่อ สุวรรณกันยุมา  มีโอรส ๒ องค์ คือ ยามลิวันและกันยุเวก มีศรนาคบาศ ศรพรหมาสตร์ และศรวิษณุปาฌัมเป็นอาวุธ  ทั้งยังสามารถแปลงกายเป็นพระอินทร์ได้อีกด้วย  พระพรหมเคยประทานพรให้ว่า เวลาจะตายต้องตายบนอากาศ และอย่าให้ศีรษะขาดตกถึงพื้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก  ต้องใช้พานแว่นฟ้าของพระพรหมมารองรับ โลดจึงจะปลอดภัย  ดังนั้น เมื่อพระลักษมณ์จะแผลงศรไปตัดคออินทรชิต จึงตรัสสั่งให้องคตเอาพานแว่นฟ้ามาคอยรับ



นางสำมนักขา เป็นยักษ์ กายสีเขียว เป็นน้องร่วมมารดาคนสุดท้องของทศกัณฐ์ สามีชื่อชิวหา ต่อมาชิวหาถูกทศกัณฐ์ขว้างจักรตัดลิ้นขาดถึงแก่ความตาย นางสำมนักขาจึงเป็นม่าย มีความว้าเหว่ ออกท่องเที่ยวไปจนได้พบพระราม นางเห็นพระรามรูปงามก็นึกรักอยากได้ไปเป็นคู่ครอง ถึงกับตบตีนางสีดาดวยความหึงหวงจึงถูกพระลักษมณ์ตัดหู จมูก มือและเท้าแล้วไล่ไป นางสำมนักขากลับไปฟ้องพี่ชายคือ ทูษณ์ ขร และตรีเศียร ว่าถูกพระรามข่มเหง แต่ยักษ์ทั้ง 3 ตน ก็ถูกพระรามสังหาร นางสำมนักขาจึงไปหาทศกัณฐ์ ชมโฉมนางสีดาให้ฟัง จนทศกัณฐ์นึกอยากได้เป็นชายา จนกระทั่งไปลักพานางสีดามา




พิเภก คือ เทพบุตรเวสสุญาณ จุติลงมาเกิดเพื่อช่วยพระรามปราทศกัณฐ์  มีกายสีเขียว เป็นน้องของทศกัณฐ์มีความรู้ทางโหราศาสตร์อย่างยอดเยี่ยม  สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำเมื่อทศกัณฐ์ลักพานางสีดามา พิเภกได้ทูลตักเตือน และแนะนำให้ส่งนางสีดาคืนไป ทำให้ทศกัณฐ์โกรธมาก จนขับไล่พิเภกออกไปจากเมือง  พิเภกจึงไปสวามิภักดิ์กับพระราม ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ จนกระทั่งพระรามชนะสงคราม  หลังจากเสร็จศึกแล้ว พระรามได้สถาปนาให้พิเภกเป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกา มีพระนามว่า ท้าวทศคีรีวงศ์



อสุรผัด  เป็นบุตรของ หนุมาน กับ นางเบญกาย เมื่อเล็กๆ เป็นเพื่อนเล่นกับ ไพนาสุริวงศ์ (โอรสของทศกัณฐ์ซึ่งติดท้องนางมณโฑมา และพิเภกคิดว่าเป็นบุตรของตน) จนไพนาสุริวงศ์โตขึ้น และพี่เลี้ยงได้บอกความจริงว่าไม่ใช่บุตรของ พิเภก แต่เป็นบุตร ทศกัณฐ์  ไพนาสุริวงศ์จึงไปขอกำลังจาก ท้าวจักรวรรดิ ผู้เป็นพันธมิตรของทศกัณฐ์มารบกับพิเภกและจับพิเภกขังไว้ อสุรผัดเห็นพิเภกซึ่งเป็นตาของตนถูกขังก็มาเฝ้าไพนาสุริวงศ์ แล้วขอให้ปล่อยพิเภก แต่กลับถูกท้าวจักรวรรดิขับไล่ อสุรผัดมีความโกรธจึงหนีมาแจ้งข่าวกรุงลงกาเกิดกบฏให้หนุมานฟัง (ขณะนั้นหนุมานกำลังบวชเป็นฤาษี) พระรามจึงส่ง พระพรต และ พระสัตรุด ยกทัพมาปราบท้าวทศพินและท้าวจักรวรรดิได้สำเร็จ  เมื่อเสร็จศึกลงกาครั้งที่สอง อสุรผัดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุปราชเมืองลงกา



นางเบญจกาย   เป็นบุตรีของ พิเภก กับ นางตรีชฎา    หลังจากที่ หนุมาน ใช้อุบายเผากรุงลงกา ทศกัณฐ์ ก็วางแผนลวงโดยให้นางเบญกายแปลงเป็น นางสีดา ตายลอยตามน้ำไปให้พระรามเห็น เพื่อให้พระรามเสียใจแล้วยกกองทัพกลับ นางเบญกายจึงได้ไปเฝ้าดูนางสีดา แล้วแปลงกายเป็นนางสีดา จนทศกัณฐ์ก็จำไม่ได้  จากนั้นนางเบญกายก็แกล้งตายลอยทวนน้ำมาจนถึงหน้าพลับพลาของพระราม พระรามเสียใจมากและโกรธหนุมานที่ไปเผากรุงลงกา แต่พิเภกทูลให้พระรามเห็นพิรุธที่ศพลอยทวนน้ำ จึงนำศพไปเผาไฟ นางเบญกายทนความร้อนไม่ไหวจึงเหาะหนีขึ้นท้องฟ้า หนุมานเหาะตามไปจับตัวนางมาได้ พระรามพิจารณาโทษและอภัยโทษให้นางเบญกาย แล้วสั่งให้หนุมานพานางไปส่ง แต่หนุมานลักลอบได้นางเป็นภรรยา จนเกิดบุตรชายชื่อ อสุรผัดต่อมาทศกัณฐ์ได้ทำพิธีตั้งอุโมงค์บำเพ็ญตบะ หนุมาน สุครีพ และ นิลนนท์ ได้รับคำสั่งให้ไปทำลายพิธี โดยขอน้ำล้างเท้านางเบญกายไปรดบนแผ่นหินที่ปิดปากอุโมงค์



นนทก เป็นยักษ์ที่ทำหน้าที่ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส ถูกพวกเทวดาแกล้งตบหัวบ้าง ถอนผมบ้าง จนหัวโล้น นนทกมีความแค้นมาก จึงเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลขอพรให้มีนิ้วเป็นเพชร สามารถชี้ให้ผู้ใดตายก็ได้ จากนั้นนนทุกก็ใช้นิ้วเพชรชี้ให้เทวดา พญาครุฑ คนธรรพ์ ตายเกลื่อนกลาด พระนารายณ์จึง ต้องไปปราบ ก่อนตายนนทุกต่อว่าพระนารายณ์ว่า ตนเองมีเพียงสองมือเท่านั้น จะชนะพระนารายณ์ที่มีถึงสี่กรได้อย่างไร พระนารายณ์จึงประทานพรให้แก่นนทุกไปเกิดเป็นยักษ์มีสิบหน้า ยี่สิบมือ แล้วพระองค์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียงสองมือ เพื่อปราบนนทกในชาติใหม่ ให้หมดสิ้นทั้งวงศ์ยักษ์ นนทกจึงกลับชาติมาเกิดเป็นทศกัณฐ์

 


วิรุณจำบัง   เป็นบุตรของ พญาทูษฐ์ แห่งกรุงจารึก มีม้าคู่ใจชื่อ นิลพาหุ เป็นม้าที่สามารถหายตัวได้  วิรุณจำบังและ สัทธาสูร ได้ไปช่วยกรุงลงการบกับ พระราม และ พระลักษณ์ วิรุณจำบังได้ทำการหายตัวไปลอบฆ่าพลวานรล้มตายลงเป็นอันมาก พระรามจึงแผลงศรฆ่าม้าของวิรุณจำบังตาย เมื่อไม่มีพาหนะวิเศษ วิรุณจำบังก็รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้จึงหนีลงไปซ่อนตัวที่ใต้มหาสมุทร หนุมาน ลงไปตามแต่ไม่พบ จนในที่สุดก็สังเกตได้ว่าวิรุณจำบังคงจะซ่อนตัวอยู่ในฟองน้ำในที่สุดวิรุณจำบังก็ต้องสิ้นชีวิตลงด้วยฝีมือของหนุมานนั่นเอง


กุมภกรรณ เป็นยักษ์มีกายสีเขียว มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ ได้ชื่อว่า กุมกรรณ (หูหม้อ) เพราะมีร่างกายใหญ่โตจนเอาหม้อใส่ไว้ในหูได้ กุมภกรรณ เป็นน้องร่วมมารดาของทศกัณฐ์ โดยเป็นพี่ของพิเภก  ครั้งหนึ่ง กุมภกรรณออกรบกับพระลักษมณ์ ได้พุ่งหอกโมกขศักดิ์ไปถูกพระลักษมณ์จนสลบ  แต่พิเภกและหนุมานช่วยแก้ไขให้ฟื้นได้  ต่อมา กุมภกรรณได้ทำพิธีทดน้ำ โดยเนรมิตรกายให้ใหญ่โตขวางทางน้ำไว้ เพื่อให้กองทัพของพระรามอดน้ำตาย แต่ถูกหนุมานทำลายพิธีครั้งสุดท้าย กุมภกรรณออกรบกับพระราม ถูกศรของพระรามจนเสียชีวิต



สุครีพ เป็นลิงมีกายสีแดง เป็นลูกของพระอาทิตย์กับนางกาลอัจนา สุครีพมีศักดิ์เป็นน้าของหนุมาน  เมื่อพระฤาษีโคดมรู้ความจริงจากนางสวาหะว่า สุครีพไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกชู้ จึงสาปให้กลายเป็นลิงพร้อมกับพาลีผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกของพระอินทร์ แล้วไล่ให้เข้าป่าไป  ต่อมาสุครีพได้เป็นทหารเอกของพระราม ได้รับความไว้วางพระทัยจากพระราม ให้เป็นผู้จัดการกองทัพ ออกสู้รบกับกองทัพของกรุงลงกาอยู่เสมอ


องคต เป็นลิงมีกายสีเขียว  เป็นบุตรของพาลี กับนางมณโฑ  เมื่อพาลีแย่งนางมณโฑมาจากทศกัณฐ์แล้ว  นางต้องเป็นภรรยาของพาลีจนกระทั่งตั้งครรภ์  ทศกัณฐ์ไปฟ้องฤาษีอังคัตอาจารย์ของพาลี จนพาลียอมคืนนางมณโฑให้แต่ขอลูกไว้  ฤาษีอังคัตจึงทำพิธีเอาลูกออกจากท้องนางมณโฑ ไปใส่ในท้องแพะ  เมื่อครบกำหนดคลอด พระฤาษีก็ทำพิธีให้ออกจากท้องแพะ ให้ชื่อว่า องคต  ส่วนทศกัณฐ์ยังผูกใจเจ็บ จึงแปลงกายเป็นปูยักษ์คอยอยู่ก้นแม่น้ำ เพื่อจะฆ่าองคตขณะทำพิธีลงสรง แต่ถูกพาลีจับได้ แล้วเอามาผูกไว้ให้ลูกลากเล่นอยู่เจ็ดวันจึงปล่อยไป เมื่อสุครีพขอให้พระรามมาช่วยปราบพาลี  ก่อนที่พาลีจะสิ้นใจตาย ได้สำนึกตนว่าทำผิดต่อสุครีพ ทั้งไม่รักษาคำสัตย์สาบาน  จึงได้ทูลฝากฝังสุครีพและองคตไว้กับพระราม  องคตได้ช่วยทำศึกกับกองทัพของทศกัณฐ์อย่างเต็มความสามารถพระรามเคยส่งองคตเป็นทูตไปเจรจากับทศกัณฐ์ เพื่อทวงนางสีดาคืน แม้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ได้แสดงความเฉลียวฉลาดและความกล้าหาญ  ให้ประจักษ์แก่ตาของทศกัณฐ์


สดายุ  บางแหล่งเรียกชื่อหนึ่งว่า ชตายุ เป็นน้องของ พญาสัมพาที และเป็นสหายกับท้าวทศรถ
ขณะที่ ทศกัณฐ์ กำลังลักพาตัว นางสีดา มาจาก พระราม นั้น ก็พอดีเหาะผ่านมาพบกับพญานกสดายุ นางสีดาจึงร้องให้ช่วย สดายุเข้ารบพุ่งกับทศกัณฐ์ แต่ทศกัณฐ์สู้ไม่ได้ นกสดายุจึงเกิดความลำพองใจร้องเย้ยหยันว่าตนไม่เคยเกรงกลัวใครเลย นอกจากพระอิศวร พระนารายณ์และพระธำมรงค์ของพระอิศวรที่นางสีดาสวมอยู่เท่านั้น








 

 

                                                                                                                  

 

 




 

 

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น