วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร




https://www.youtube.com/watch?v=F2PTpkLKuUs  เพลงเกาะในฝัน


ฉัน สุด ปลื้ม
.ไม่ลืมเกาะงามที่เคย ฝัน
.หลงเพ้อ คำมั่น
.รำพันถึงความรัก ชื่น ฉ่ำ
.แสง จันทร์ผ่อง
.ส่องเป็นประกายบนผืน น้ำ
.เสียงสาย ลมพร่ำ
.คร่ำครวญเหมือนมนต์ ตรา
.หาดทรายขาว..
.หมู่ดาว พราวพร่างนภา
.รูป งาม เพราพริ้ง ตา
.ใย ด่วน ลาเลือน มลาย
.ฝัน สุด สิ้น
.ไม่ยล ไม่ยิน น่าใจ หาย
.ฝันถึง ไม่หน่าย
.ไม่คลาย ร้างรัก เธอ

หาดทรายขาว
.หมู่ดาว พราวพร่างนภา
.รูปงาม เพราพริ้ง ตา
.ใยด่วน ลาเลือน มลาย
.ฝัน สุด สิ้น
.ไม่ยล ไม่ยิน น่าใจ หาย
.ฝันถึง ไม่หน่าย
.ไม่คลาย ร้างรัก เธอ.....


เพลงแสงเดือน


ดนตรี 13 Bars..11...12...
13...นวล....แสงนวลผ่องงามตา
....แสง จัน ทรา
....ส่องเรืองฟากฟ้า...ไกล
..งาม....แสงงามผ่องอำไพ
....ย้อม ดวง ใจ
....ให้คงคลั่งไคล้...เดือน
..ชมแล้ว ชมเล่า..เฝ้าชะแง้..แลดู
..เพลินพิศ เพลินอยู่..ไม่รู้..ลืมเลือน
..เดือน....แสงเดือนผ่องวันเพ็ญ
....แสง จันทร์ เพ็ญ
...เด่นงามใดจะเหมือน
....โฉม งาม เทียบ
เปรียบเดือน..แสงงาม
ดนตรี 5 Bars..3...4...
5...นวล....แสงนวลผ่องงามตา
....แสง จัน ทรา
....ส่องเรืองฟากฟ้า...ไกล
..งาม....แสงงามผ่องอำไพ
....ย้อม ดวง ใจ
....ให้คงคลั่งไคล้...เดือน
..ชมแล้ว ชมเล่า..เฝ้าชะแง้..แลดู
..เพลินพิศ เพลินอยู่..ไม่รู้..ลืมเลือน
..เดือน....แสงเดือนผ่องวันเพ็ญ
....แสง จันทร์ เพ็ญ
...เด่นงามใดจะเหมือน
....โฉม งาม เทียบ
เปรียบเดือน..แสงงาม..


แสงเทียน

จุดเทียนบวงสรวง ปวงเทพเจ้า
สวดมนต์ค่ำเช้า ถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอ ล้วนรอความตายทุกคน
หลีกไปไม่พ้น ทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้ว ตายไป
ชดใช้เวรกรรมจากจร

นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เสี่ยงบุญกรรม
ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน

เชิญปวงเทวดา ข้าไหว้วอน
ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า

ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน
แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน

เปรียบเทียนสิ้นแสง ยามแรงลมเป่า
ชีพดับอับเฉา เหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวาย หมายบนบูชาร้องเรียน
โรคภัยเบียดเบียน แสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร่าร้อน แรงโรย
หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ

ทำบุญทำทานกันไว้เถิด เกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่

เคยทำบุญทำคุณ ปางก่อนใด
ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า

ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
แสงเทียนบูชาจะดับพลัน
แสงเทียนบูชาดับลับไป



ชะตาชีวิต

นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
...คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
หลงไหลหมายปองคนปรานี
...ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
ขาดญาติบิดรและน้องพี่
บาปกรรมคงมี จำทนระทม

...ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
...แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
ชีวิตระทมเพราะรอมา
...จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
สักวันบุญมา ชะตาคงดี

นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
...คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
หลงไหลหมายปองคนปรานี
...ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
ขาดญาติบิดรและน้องพี่
บาปกรรมคงมี จำทนระทม

...ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
...แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
ชีวิตระทมเพราะรอมา
...จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
สักวันบุญมา ชะตาคงดี



ยามเย็น

..แดด รอน ๆ
เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเม-ฆา
ทอแสงเรืองอร่าม ช่าง งาม ตา
ในนภาสลับ จับ อัม พร
..แดด รอน ๆ
เมื่อทินกรจะลาโลกไป ไกล
ยามนี้จำต้องพราก จาก ดวง ใจ
ไกลแสนไกลสุดห่วง ยอด ดวง ตา
..แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน
ทุกวันคืนรี่นอุรา
ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญา
เหมือนดัง นภา ไร้ ทินกร
แดด รอน ๆ
หากทินกรจะลาโลกไป ไกล
ความรักเราคง อยู่ คู่ กัน ไป
ในหัวใจคงอยู่ คู่ เชย ชม
..แดด รอน ๆ
หมู่มวลภมรบินลอยล่องตาม ลม
คลอเคล้าพฤกษาชาติ ชื่น เชย ชม
ชมสมตามอารมณ์ ล่อง เลย ไป
ลิ่ว ลม โชย
กลิ่นพันธุ์ไม้โปรยโรยร่วงห่วงอา ลัย
ยามสายัณห์พลันพราก จาก ดวง ใจ
คอยแสงทองวันใหม่ กลับ คืน มา
แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน
ทุกวันคืนชื่นอุรา
ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญา
เหมือนดังนภาไร้ทินกร
..โอ้ ยาม เย็น
จวบยามนี้เป็นเวลา สุด อา วรณ์
ยามไร้ความสว่างห่างทินกร
ยามรักจำจะ จร จาก กัน ไป..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น